Tuesday, June 7, 2016

#Fickillme chp หัวใจที่ถูกกรีด











“ดี ...”


“...”


“ถ้าเกลียดกูมากจนอยากตายขนาดนั้นล่ะก็ ...”


“...”


“กูจะให้มึงจำความรู้สึกเหมือนถูกดึงลงนรกนี้ไปชั่วชีวิต”


แกร๊ก !!


ผมชะงักเมื่อเห็นแววตาของเขา ตากลมของผมมองจงอินที่กดล็อคประตูก่อนที่ขาของผมจะเริ่มถดตัวถอยหลังอย่างรวดเร็ว การขยับตัวแต่ละครั้งเป็นไปได้ยากเพราะมีโซ่ล่ามขาผมไว้บวกกับข้อเท้าที่กำลังเคล็ดจนรู้สึกเจ็บแปล็บ ๆ แต่จากการกระทำและคำพูดของจงอินทำให้ผมถอยห่างจากเขาอย่างไม่ไว้ใจ


“คุณจะทำอะไร”


คนตัวสูงไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับก้าวเท้าเข้ามาหาผมเรื่อย ๆ โดยที่ผมก็ถอยห่างจากเขาเรื่อย ๆ เช่นกัน จงอินเหยียบสายโซ่ที่ผมกำลังลากถอยพร้อมกับจับแขนผมไว้แล้วออกแรงกระชากผมให้ลุกขึ้นอย่างแรง


“มานี่”


“เป็นบ้าไปแล้วหรือไงน่ะ !


ผมตะโกนถามเขาด้วยความเจ็บจากการกระชาก กระดูกผมเหมือนจะแตกละเอียดเมื่อเขาออกแรงบีบมันอย่างแรงจนผมต้องทุบไปที่ไหล่ที่แข็งเหมือนหินของเขาให้ปล่อยแต่มันกลับไม่ได้ผลอะไรเลย


จงอินไม่ได้สนใจกับแรงทุบที่ผมพยายามลงหนักขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าผมจะมีเรี่ยวแรงเพียงแค่น้อยนิดถ้าเทียบกับเขาแต่ผมมั่นใจว่าจงอินต้องรู้สึกเจ็บบ้างไม่ใช่ยืนทื่อแบบนี้


ตุบ


หน้าผมทิ่มลงกับเตียงจนแทบจะทะลุลงไปข้างใต้ผมหันมามองจงอินที่เริ่มใช้กำลังกับผมมากเกินไปแล้วด้วยสายที่ไม่ชอบใจ ร่างหนัก ๆ ของเขาโถมตามลงมากดผมไว้จนมิดพร้อมกับใบหน้าเราที่ห่างกันแค่คืบ


“อะ ... ออกไป ... นะ”


ผมพูดอย่างตะกุกตะกักและเรียบเรียงไม่ค่อยเป็นประโยคเมื่อเห็นหน้าของจงอินเลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ผมใช้มือดันไปที่หน้าของจงอินแต่เขากลับปัดมันออกก่อนจะกดมันลงแนบสนิทกับเตียง


“หึ”


ในตอนนี้ผมมองเห็นแค่รอยยิ้มร้ายดุจมัจจุราชจากเขา.


อากาศที่ผมรู้สึกว่ามันเย็นสบายในห้องเหมือนจะเย็นลงจนมือผมสั่นน้อย ๆ โดยไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้ายังไง ริมฝีปากร้อนบดขยี้ลงมาอย่างรุนแรงและดุดันจนผมรู้สึกวูบในท้องน้อย เสียงร้องด้วยความตกใจกลายเป็นเสียงอู้อี้ที่อยู่ภายในลำคอเมื่อปากถูกปิดสนิท ผมรู้สึกถึงรสชาติและกลิ่นความคาวของเลือดเมื่อริมฝีปากถูกขยี้จนแทบจะแตกร้าว


ผมยกขาดิ้นเพื่อที่จะหลบแรงกดทับจากเขาแต่จงอินกลับดันตัวแทรกเข่าเข้ามาเพื่อไม่ให้ผมหนีไปไหนได้ ปากที่ถูกบดขยี้เริ่มแสบจนผมเผลอร้องออกมาแต่กลับกลายเป็นว่าผมยอมให้จงอินสอดลิ้นเข้ามาภายในปากของผม ปลายลิ้นที่กวาดไปทั่วโพลงปากกำลังจะทำให้สติผมขาดหาย


จงอินไม่เคยทำกับผมแบบนี้ เขาไม่เคยรุกรานผมมากขนาดนี้มาก่อน


“อึ๊ !!!


“ปล่อย !!!


ผมพูดเสียงดังเมื่อเห็นว่าจงอินผละออกหลังจากที่ผมขบลงที่ริมฝีปากของเขาจนเลือดซิบ ลิ้นของเขาแลบออกมาแตะที่ริมฝีปากก่อนที่จงอินจะมองผมด้วยแววตาแข็งกร้าวเมื่อเห็นว่าผมทำเขาได้แผล จงอินเพิ่มแรงกดลงมาที่ตัวผมพร้อมกับยิ้มมุมปาก


“เก่งนักนี่ เอาสิ ดูสิว่ามึงจะรอดไปได้ไหม”


“คุณจะทำแบบนี้ทำไม มันไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะจงอิน !!”


“...”


“แล้ว ... ผมจะเกลียดคุณยิ่งกว่าตอนนี้ซะอีก”


“งั้นก็เกลียดกู ... เกลียดให้มากเท่าที่มึงจะเกลียดได้”


จงอินพูดจบก็ไซร้ต่ำลงไปตามลำคอและลาดไหล่ของผมก่อนจะขบเม้มจนมันแดงเป็นปื้นไปทั่ว ผมรู้สึกกลัวเมื่อภาพความทรงจำเก่า ๆ ในตอนนั้นมันถูกรื้อขึ้นมาอีกครั้ง หยดน้ำตาเริ่มคลอที่ตาของผมจนมองภาพเบลอไปหมด


“มะ ... ไม่เอานะ ... อย่าทำแบบนี้”


“มึงลืมสัมผัสพวกนี้ไปแล้วหรือไง” จงอินกระซิบต่ำที่ข้างหูผมก่อนจะค่อย ๆ เลิกเสื้อผมขึ้นและกระชากอย่างแรงจนคอมันถูกฉีกออกกว้าง


ลมหายใจร้อน ๆ ที่ไล่ไปทั่วลำคอทำให้ผมดิ้นอย่างบ้าคลั่งทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้ช่วยให้ผมหลุดเลยแม้แต่น้อย จงอินหัวเราะในลำคออย่างชอบใจเมื่อเห็นว่าผมมองเขาด้วยสายตาแค้นเคืองผ่านทางม่านน้ำตาที่เริ่มหยดลงเป็นสาย


“ชั่ว ... ช้า”


จงอินไม่ตอบอะไร เขายิ้มมุมปากอย่างสะใจ ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังก้าวเท้าเข้าสู่นรกอย่างเต็มรูปแบบ


กางเกงขาสั้นของผมถูกปลดตะขอและดึงออกอย่างง่ายดายแม้ว่าผมจะพยายามดึงมันไว้ ริมฝีปากร้อนประกบลงมาอีกครั้งก่อนจะดึงสติผมให้วูบไหว


“อ้ะ !


ความเจ็บจี๊ดบริเวณช่องทางนั้นพุ่งขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ เมื่อจงอินสอดนิ้วเข้ามาโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว


“ฮึก จงอิน มะ ... ไม่เอา ...”


“หยุดร้องซะที รำคาญ !!!


“ฮึก...”


น้ำตาผมเริ่มไหลออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่เมื่อจงอินเริ่มขยับนิ้วเข้าออกช้า ๆ ริมฝีปากของเขายังคงทำหน้าที่ปลุกเร้าอารมณ์ผมไปเรื่อย ๆ เมื่อเขาคิดว่าผมเริ่มคุ้นชินจงอินจึงเพิ่มเป็นสองและสามนิ้วส่งผลให้ความเจ็บค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน


และมันกำลังทำให้ผมเกลียด !


ผมยังมีสติและรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ ผมเกลียดเขา เกลียดความรู้สึกบ้า ๆ ที่กำลังตีรวนอยู่ในหัว ผมหวาดกลัวสัมผัสพวกนี้เพราะครั้งนึงร่างกายผมเคยถูกขยี้จนสกปรกไปหมด !


และผมเองก็เกลียดตัวเอง ... ที่เริ่มอ่อนไหวไปกับสัมผัสจากคนที่ตัวเองเกลียดนักหนา


ผมค่อย ๆ หลับตาลงปล่อยให้หยดน้ำตาสีใสไหลตามหน้าที่แสดงความรู้ของมันไป ผมไม่อยากมองเห็น ไม่อยากรับรู้ถึงความรู้สึกจาบจ้วงที่จะทำลายผมอีกครั้ง ตาคมคู่นั้นมองไปทั่วร่างกายผมเหมือนคนเสียสติเขาขบเม้มกดจูบลงทุกส่วนบนร่างกายของผมทั้ง ๆ ที่เขายังยิ้มด้วยรอยยิ้มของปีศาจ


“อึก ...”


ร่างผมเกร็งไปทั่วทุกส่วนเมื่อรับรู้ถึงบางส่วนที่ใหญ่ผิดจากขนาดนิ้วกำลังแทรกเข้ามาช้า ๆ


ผมไม่รู้ว่าเขากำลังแสดงสีหน้ารู้สึกสะใจแค่ไหนเพราะผมเลือกที่จะหลับตาลงแน่นสนิท ...


พยายามปิดกั้นการรับรู้ทั้งหมดแม้ว่าสมองยังคงบอกผมได้ดีว่าจงอินกำลังขยับร่างกายของเขาช้า ๆ โดยไม่สนเสียงที่ร้องเหมือนจะขาดใจของผม


จงอินไม่แม้แต่จะถอดกางเกงออกเพราะผมรู้สึกถึงเนื้อผ้าที่เสียดสีกับท่อนขาของผม สัมผัสที่รุนแรงของเขาสร้างทั้งความเสียวซ่านและความเจ็บปวดที่ใจให้ผมอย่างถึงที่สุด


ถ้ามันเป็นมีดผมคงถูกรีดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไม่เหลือที่ว่างตรงไหนให้เขาลงมีดได้อีก


ไม่มีเสียงขอร้องใดใดออกจากปากของผมอีกเมื่อผมรู้ดีว่ามันจะไม่มีความเห็นใจจากผู้ชายที่เลวสุดขั้วคนนี้อย่างแน่นอน


จงอินมองผมที่หลับตาอย่างหงุดหงิดใจก่อนจะออกแรงกระแทกแรงขึ้นจนตัวผมสั่นโยกไปตามจังหวะ ภายในห้องมีเพียงเสียงครางในลำคอเบา ๆ ของเขากับเสียงร้องสะอื้นเหมือนจะขาดใจของผม


ผ่านไปไม่รู้กี่นาทีแต่มันทำให้ผมร้องไห้จนแทบหมดแรง จงอินถอนแกนกายออกไปช้า ๆ หลังจากที่เขาทำมันจนเสร็จและปลดปล่อยในตัวผม


เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นจัดสภาพตัวเองให้ดูดีก่อนหยิบกางเกงของผมโยนมาให้ที่ข้างเตียง


จงอินไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มมุมปาก ผมกัดฟันก่อนจะชี้ไปที่ประตูห้อง


“ออกไป ...”


“...”


“ออกไปซะ !!!!!


ผมหยิบหมอน หยิบอะไรก็ตามที่คว้าได้ขว้างใส่เขาที่ปัดมันทิ้งก่อนจะแสยะยิ้มแล้วเดินออกไปจากห้องของผม เมื่อประตูปิดสนิทผมก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้งเหมือนคนบ้า


ผมหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวช้า ๆ ก่อนจะชันเข่าขึ้นและซบหน้าลงไป รอยจ้ำแดง ๆ น่าเกลียดพวกนี้ทำให้ผมขยะแขยงตัวเอง ผมถูมันอย่างแรงแม้จะรู้ดีว่ามันไม่มีทางหายไป


คราบน้ำสีขาวที่ค่อย ๆ ไหลออกมาเปื้อนผ้าปูที่นอนทำให้ผมสะอื้นอย่างควบคุมไม่อยู่


“ฮึก ... ฮือออออออออ”


มันอาจจะเป็นเวลานานเกือบชั่วโมงที่ผมทรมานที่สุด


และผมเกลียดร่างกายของตัวเอง ...


ที่ดันไปตอบรับสัมผัสจากเขา


















Saturday, April 11, 2015

S O B * T C H - 29 [Hunhan NC]








                ริมฝีปากของผมถูกเซฮุนปิดลงสนิททันทีที่มันพูดจบก่อนจะดันลิ้นเข้ามาหยอกล้อผมและลูบไปตามแผ่นหลังของผมอย่างแผ่วเบา





                "ไม่เอาน่า เซฮุน" ผมผลักมันออกก่อนจะหันไปเตรียมจะบิดลูกบิดหนีออกไปข้างนอก แต่ร่างของผมจะถูกช้อนขึ้นโดยแขนแกร่ง ๆ และวางลงบนเตียงที่ผมใช้นอนทุกคืนอย่างทะนุถนอม





                "ปล่อยกูเดี๋ยวนี้" ผมสั่งแต่ก็ไม่ได้ออกแรงดิ้นอะไร เพราะผมคิดว่าเดี๋ยวมันก็คงจะยอมปล่อยเองล่ะ แต่ผมคิดผิด ...





                "โวยวายไปเถอะ ยังไงก็ไม่มีคนอยู่ข้างล่างหรอก บ้านนี้มีแค่เรานะครับที่รัก" เซฮุนพูดและยิ้มด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ลำตัวหนา ๆ ของมันเริ่มขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้ แต่เนื่องจากขาที่ติดกันและยังยกขึ้นตั้งฉากของผมทำให้เซฮุนทำได้แค่อยู่ห่าง ๆ เท่านั้น





                "เซฮุน กูง่วงก็อยากนอน" ผมร้องขอไปตามตรง ผมมีเรื่องต้องคิด ผมอยากอยู่คนเดียว





                อย่าเพิ่งมาหื่นตอนนี้ได้ไหม !!





                "ก็นี่ไงกำลังจะนอน ไม่เห็นเหรอ ?" เซฮุนอมยิ้มก่อนจะค่อย ๆ เลิกเสื้อผมขึ้นช้า ๆ ผมดิ้นและเอามือกันหน้ามันออกทันทีที่เห็นปฏิกิริยาของมัน แต่นั่นกลับทำให้มันออกแรงกระชากเสื้อผมออกอย่างแรง ! จนขาดออกและกดแขนผมแนบลงไปกับเตียง





                "ไอ้เซฮุน !! เสื้อ !!"





                "เดี๋ยวซื้อให้ใหม่ ... สองตัวเลย" มันพูดก่อนจะก้มลงปิดปากผมไม่ให้พูดหรือเถียงอะไรออกมาอีก ผมรู้สึกหมดแรงขึ้นมาดื้อ ๆ เมื่อมันจูบผมชนิดที่สามารถเรียกว่าสูบวิญญาณได้เลยเพราะมันไม่มีแม้แต่จังหวะที่จะให้ผมหายใจพัก ผมหันหน้าหนีจนริมฝีปากหลุดออกจากกันเมื่อเริ่มหายใจไม่ออก เซฮุนไซร้ไปตามลำคอผมอย่างชำนาญแทนเมื่อเห็นว่าผมกำลังใช้แรงอย่างมหาศาลในการหอบเอาอากาศเข้าปอด





                ผมรู้สึกว่าร่างกายผมกำลังร้อนไปหมด และเพราะอาการแบบนี้แหละที่มันกำลังทำให้ผมจะเป็นบ้าตาย !





                ผมพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์นี้แต่มือหนาที่บีบลงที่ต้นขาของผมเบา ๆ นั่นทำให้ผมดิ้นช้าลงเรื่อย ๆ และขาที่ตั้งฉากของผมก็ค่อย ๆ ตกลงและแนบลงกับเตียงไปในที่สุด





                ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรู้สึกดีไปแล้วเกินกว่าครึ่ง





                เซฮุนกดลำตัวลงมาทันทีเมื่อมีขาของผมกั้นอะไรอีกแล้ว มันแยกผมออกก่อนจะแทรกตัวเข้ามาตรงกลางลำตัวของผม





                "เลิกเล่นได้แล้วน่า" ผมพยายามทำเป็นโมโหและหันหนีแต่เหมือนมันจะรู้ว่าผมทำไปเพื่อแก้อาการและหลีกเลี่ยงความรู้สึกที่กำลังเกิดตั้งหาก





                "ไม่ได้เล่น นี่จะเอาจริง ๆ" มันพูดและกัดใบหูผมเบา ๆ ให้จักจี้เล่นและลูบไล้ขาผมไปมาอย่างหยอกล้อ





                ผมรู้สึกว่ามันเริ่มจะเกินเลยแล้วนะ ผมจะไม่ยอมให้มีเรื่องแบบนี้อีกครั้งหรอกนะ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้ !





                ผมถอยหนีออกห่างเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรแข็ง ๆ กำลังเสียดสีกันขาผมอยู่ในตอนนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคืออะไร แต่สิ่งที่ผมคิดว่าบังคับไม่ได้คืออารมณ์ของผมกับมันในตอนนี้มากกว่า





                "ถอดเข็มขัดให้หน่อย"





                "พูดบ้าอะไร ไม่โว้ยย ! ปล่อยเลย ๆ ๆ" ผมดันมันออกห่างแต่มันกลับกดข้อมือผมลงไปและปลดเข็มขัดของตัวเองออกและเหวี่ยงลงไปข้างตียง





                "ชุดนักศึกษาทำไมมันถอดยากแท้วะ !" มันบ่นและแกะกระดุมเสื้อตัวเอง จังหวะนั้นผมที่เป็นอิสระจึงค่อย ๆ ถอยตัวหนี แต่มันก็คว้าตัวผมไว้และกดจูบลงมาก่อนจะสอดลิ้นกวาดไปทั่ว





                ผมรู้สึกสมองเบลอและทำทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ และต้องทำอะไรต่อไปกันแน่ รู้ตัวอีกทีผมก็ไม่มีอะไรปิดร่ายกายแม้แต่ชิ้นเดียวแล้ว





                เซฮุนปล่อยให้ผมได้มีอากาศหายใจครู่นึง ผมมองหน้ามันที่มองผมอยู่ผมหันหน้าหนีออกช้า ๆ เซฮุนดึงปลายคางผมให้หันกลับไปมองหน้าอีกครั้ง





                "กูยังรักมึงอยู่"





                ผมนิ่งไม่ใช่ว่าผมไม่ได้ยิน แต่ตอนนี้ร่างกายผมกำลังสั่น เมื่อนึกไปถึงสิ่ง ๆ ต่างในวันนั้น วันที่สนามแข่ง ...





                "ไม่ต้องกลัว เชื่อใจกูนะ ..."





                แค่นั้นผมก็รู้สึกอ่อนยวบไปร่าง





                โอเค ... ผมยอมทุกอย่าง ผมแพ้มันแล้วล่ะ





                เซฮุนค่อย ๆ แทรกแกนกายตัวเองเข้ามาช้า ๆ ผมร้องออกมาเบา ๆ เมื่อมันรู้สึกเจ็บแล่นขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ และผมก็จิกเล็บลงบนแผ่นหลังมันอย่างแรง พร้อมทั้งข่วนจนเป็นรอยยาว





                เซฮุนขยับเข้าออกช้า ๆ ให้ผมได้คุ้นชิน และเมื่อผมเริ่มคุ้นชินกับสิ่งที่เข้ามาในตัวมันก็ไม่รอช้าที่จะบรรเลงเพลงรักต่ออย่างเร่าแรงและรุนแรงจนผมแทบจะขาดอากาศหายใจตาย





                เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เราอยู่กันในท่านั้น แต่เสียงครางจากที่ผมส่งออกมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ผมรู้ว่ามันคงนานมากทีเดียว เพราะผมเริ่มไม่มีแรงจะส่งเสียงอีกแล้ว





                เซฮุนกดจูบที่ขมับผมอย่างหนักหน่วงก่อนจะกระแทกกายถี่รัวเข้ามาจนผมโยกไปตามแรงนั่นก่อนที่เขาจะเกร็งและกระตุกอีกสามสี่ทีและมีของเหลวอุ่น ๆ ฉีดเข้ามาในตัวผมไม่หยุด





                มันตัวออกไปเมื่อเสร็จแล้วก่อนจะทิ้งน้ำหนักตัวลงข้างลำตัวของผมและจับมือผมไว้แน่น





                ผมขยับตัวเมื่อเซฮุนเปลี่ยนมากอดผมหลวม ๆ มันคงหมดแรงไปแล้วสินะ ดี ! ผมจะได้ลุกไปอาบน้ำซะที





                "จะไปไหน เหนื่อยแล้วหรอ" มันถามและเงยหน้าขึ้นมามองผม





                "จะไปอาบน้ำ" ผมตอบก่อนจะดึงแขนมันออกจากเอว แต่มันไม่ยอมปล่อยนี่น่ะสิปัญหา !!





                "มึงยังไม่เสร็จเลย" มันพูดและไซร้ซอกคอขาวของผมต่อ เหมือนยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ผมจึงดันหน้ามันออกห่างและหันหนี





                "อย่าดิวะ ! ปล่อยกูได้แล้วน่า ..." ผมพูดเสียงสั่น ๆ เมื่อรู้สึกว่าอะไรแข็ง ๆ มันเริ่มที่จะมาเสียดสีที่สะโพกของผมอีกแล้ว





                "ต่ออีกรอบนะลู่หาน ..."





                .......





S O B * T C H - 26 [Kaibaek NC]










ผมหันหน้าหนีริมฝีปากที่ยังคงบดขยี้ลงมาอย่างไม่ยั้งโดยไม่สนว่าผมจะขาดอากาศหายใจตายไปในไม่ช้าหรือไม่


"ปล่อยกูนะจงอิน !!!" ผมสั่งมันทันทีเมื่อริมฝีปากแยกออกจากกัน


"มึงยังคิดว่ามึงจะรอดอีกหรอ ?"    มันถามก่อนจะถอดเข็มขัดของผมออกและกระชากกางเกงของผมลงไปกองที่พื้น


"อย่า !!" ผมร้องเมื่อมันลูบไล้ไปตามขาและขึ้นสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสัมผัสไปถึงไหนต่อไหน


"อย่าช้าหรือว่ายังไง ..." มันถามเสียงเบาเหมือนกระซิบที่ข้าง ๆ หู ผมขนลุกซู่ขึ้นมาทันทีเมื่อมันเริ่มใช้มือวนไปตามส่วนนั้นของผม


ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะ ผมก็เป็นคน มีอารมณ์ มีความรู้สึก ถึงแม้มันจะเป็นคนที่ผมเกลียดแสนเกลียดขนาดไหน แต่โดนขนาดนี้มันก็ต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองบ้างล่ะ


"ร่างกายมึงไม่ค่อยต่อต้านกูเท่าไหร่นะ" มันกระชากเสื้อเชิ้ตของผมออกจนกระดุมกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง เท่ากับว่าตอนนี้ร่างกายของผมเหลือแค่กางเกงชั้นในตัวเดียวเท่านั้น


ผมดิ้นและเขย่าตัวจนเตียงสั่นเหมือนจะพังลงไปซะตอนนี้ มันค่อย ๆ ขบกัดลงบนยอดอกทั้งสองข้าง ๆ และลากลิ้นหนาของมันไปตามร่างกายของผม จนผมต้องกัดฟันเพราะความรู้สึกที่เริ่มจะอยู่เหนือคำสั่งของผม


“ออกไป !!! ไอ้สารเลว”


จงอินดึงกางเกงชั้นในของผมออกและลูบไปบนสะโพกผมและบีบเค้นอย่างหนักพร้อมกับปลายลิ้นร้อนที่โลมลียไปทั่วอย่างหื่นกระหาย


ผมหลับตาลงเมื่อรับรู้ว่าผมดิ้นไปก็เปล่าประโยชน์ข้อมือผมแดงเป็นรอยยาวจากการที่ผมดิ้นแล้วทำให้สายโซ่รัดแน่นจนแขนผมแดงไปหมด


"มึง ... จะ ... ทำอะไร" เสียงผมสั่นอย่างน่าเกลียด ผมเกลียดร่างกายตัวเองที่กำลังเอนเอียงไปทางการตอบสนองมากกว่าการต่อต้าน จงอินหัวเราะเบา ๆ ในลำคอก่อนจะดันนิ้วเข้ามาในช่องทางด้านหลังอย่ารวดเร็ว


"อ๊ะ !"


ผมรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ


ร่างกายผมยังไม่พร้อม


มันไม่มีการเล้าโลมหรือปลุกเร้าอะไรเลย


จงอินค่อย ๆ ขยับท่อนนิ้วช้า ๆ เพิ่มนิ้วจากหนึ่งเป็นสอง และเป็นสามเข้ามาในตัวผม ...


ผมกัดปากตัวเองแน่น จงอินก้มลงจูบผมอย่างป่าเถื่อนและรุนแรง แต่ผมไม่เปิดปากให้มันได้ส่งลิ้นเข้ามา มันจึงกระชากเส้นผมด้านหลังของผมอย่างรุนแรง


"จนถึงตอนนี้มึงยังขัดขืนอีกงั้นเหรอ ?" มันถามและจ้องเข้ามาในตาของผม


"คนอย่างมึง กูไม่เอา ... ให้เปลืองตัวหรอก !"


"หึ ! ดี ! กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนอย่างมึงจะเก่งแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน" มันพูดจบก็กดหัวผมลงกับหมอนนิ่มนั่นทันที


มันดึงกางเกงลงก่อนจะยกขาทั้งสองข้างของผมขึ้นและแยกออกจากกัน

ผมเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่ามันกำลังจะทำอะไร ผมใช้ขายันมันออกให้ห่างตัวแต่มันกลับจับขาผมแยกออกอีกครั้งได้และกระแทกแก่นกายเข้ามาจนสุดในครั้งเดียว !


“อื้อ !!!


ผมนิ่งเมื่อรู้สึกจุกจนพูดอะไรไม่ออก


แต่ผมไม่มีทางร้องหรอกนะ ... ไม่มีทางที่จะให้มันได้ยินเสียงครางของผมเด็ดขาด


จงอินขยับตัวอย่างเชื่องช้า ... มันส่งเอวกระแทกร่างกายเข้าออกโดยไม่สนว่าผมจะเจ็บบ้างหรือไม่ ... ก็คงเพราะมันคิดว่าผมไม่เจ็บ


เพราะผมไม่ร้องสักแอะ


แม้ว่าจริง ๆ แล้ว ร่างกายของผมมันแทบจะแยกออกจากกันได้อยู่รอมร่อ


"เก่งจริงนะ ... ไม่คิดที่จะครางออกมาให้กูได้ยินมั่งหรือไง"


ผมมองมันด้วยสายตาที่แสดงออกว่าขนะแขยงมันอย่างสุดซึ้งส่งไปให้ จงอินยิ้มชั่วก่อนจะก้มลงกระซิบที่ใบหูของผม


"อย่ามองผัวด้วยสายตาแบบนั้นสิครับ"


ผมหันหน้าหนีก่อนจะกัดริมฝีปากตัวเองแน่นขึ้นอีกเพื่อกลั้นเสียงร้องที่มันกำลังจะออกมาจนรู้สึกได้ถึงได้กลิ่นคาวเลือดที่ไหลออกมาเล็กน้อย


ไม่ว่ายังไง ... ผมก็ไม่มีทางขอร้องคนอย่างมันให้หยุด


ไม่มีทางส่งเสียงครางน่ารังเกียจให้มันได้ยินแน่ ๆ !!!


จงอินกระแทกตัวเข้ามาและเพิ่มระดับความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จงตัวผมโยกไปตามแรงส่ง


ส่วนล่างกำลังร้อนเป็นไฟและพยายามจะปลุกเร้าแผดเผาผมให้เห็นดีเห็นงามและสนุกไปกับจงอินด้วย แต่สัมผัสด้านดีของผมมันมีมากกว่า


ผมเจ็บปวดที่ใจ ... จนอยากจะตาย ...


แล้วตอนที่คยองซูโดนกระทำอย่างกับสัตว์แบบนั้น ... มันเจ็บปวดแค่ไหนกันนะ


ทุกอย่างขับเคลื่อนไปเรื่อย ๆ ด้วยความรุนแรงและป่าเถื่อน พร้อม ๆ กับหัวใจของผมที่แทบจะสลายเมื่อรับรู้ว่าผมกำลังเจอกับอะไร เจ็บที่กายมันไม่เท่าไหร่


แต่ที่หนัก ... คือหัวใจ


เมื่อผมกำลังคิดถึงใบหน้าของชานยอล ...


จงอินเร่งแรงกระแทกเมื่อมันกำลังจะถึงจุดปลดปล่อย ร่างผมสั่นคลอนและแนบไปเตียงที่สั่นอย่างรุนแรงจนเหมือนจะพังซะเดี๋ยวนี้


ยิ่งกระแทกยิ่งตอกย้ำ ... ยิ่งทำให้รังเกียจ


เกลียดมัน ! เกลียดตัวเอง ... เกลียดทุกอย่างที่เกิดขึ้น


ช่องทางด้านหลังของผมรู้สึกอุ่นนิด ๆ และมีการกระแทกจากมันอีกสองสามทีก่อนที่ทุกอย่างจะนิ่งสงบ


"หึ ! กูยอมรับว่ามึงเก่งที่มึงไม่ร้องสักแอะ" จงอินพูดก่อนจะเดินไปคว้ากุญแจและไขแม่ที่ล็อกโซ่มัดข้อมือผมออกและปล่อยผมให้เป็นอิสระ


ตลอดเวลาที่มันตามผมมาตลอด มันต้องการแค่นี้ใช่ไหม ... ?


ผมมองหน้ามันนิ่ง ๆ ไม่ได้พูดอะไรออกไป ถึงแม้ผมจะยังไม่ได้ปลดปล่อยแต่ตอนนี้ร่างกายผมกำลังรู้สึกวูบ คล้าย ๆ คนที่จะเป็นลมมากกว่า ...


ผมไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นมาตบหน้าจงอินสักครั้ง น้ำตากำลังกลั่นตัวและออกมาช้า ๆ ... ผมมันแย่ ... แค่นี้ก็อ่อนแอ


ผมควรจะเข้มแข็งสิ คยองซูเจ็บกว่าผมนะ ... ผมคิดและค่อย ๆ คลานลงจากเตียงช้า ๆ โดยที่ทั้งหมดมีสายตาของจงอินมองอยู่ตลอด


ชานยอล ...


จนป่านนี้มึงก็ยังไม่มา ...


ผมร้องเรียกมันในใจเป็นร้อย ๆ หน หวังให้โผล่มาช่วยผมเหมือนทุกครั้ง ...


แต่ ... สวรรค์ก็ไม่เข้าข้างผมสักนิด